หัวใจของวิชาชีพทนายความ : คุณภาพ จรรยาบรรณ และความไว้วางใจ

The Heart of a Professional Lawyer: Quality Ethics & Trust

มนต์อนันต์ เรืองจรัส

Managing Partner, MR & Partners

ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีในวิชาชีพทนายความ ผมได้เรียนรู้บทเรียนสำคัญจากภาคปฏิบัติ  บทเรียนที่ไม่มีบันทึกอยู่ในตำรา และไม่อาจได้รับจากการเรียนการสอนในรั้วมหาวิทยาลัย ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้ผมตระหนักอย่างลึกซึ้งว่า วิชาชีพทนายความเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ขาดไม่ได้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะเกี่ยวข้องโดยตรงกับสิทธิ เสรีภาพ ทรัพย์สิน และความเป็นธรรมในชีวิตของผู้คน

ด้วยเหตุนี้ คำว่า “ทนายความที่ดี” จึงไม่ใช่เพียงผู้ที่มีความรู้กฎหมายอย่างลึกซึ้งเท่านั้น หากแต่คือผู้ที่ยึดมั่นในคุณธรรม ความซื่อสัตย์ และการปฏิบัติหน้าที่ด้วยมาตรฐานสูงสุดในทุกขั้นตอน ทนายความต้องทำงานด้วยความละเอียด รอบคอบ และตระหนักถึงผลลัพธ์ที่ส่งผลต่อชีวิตของผู้อื่นเสมอ

ดังนั้น สำหรับผม วิชาชีพทนายความตั้งอยู่บนหลักสำคัญสามประการ ได้แก่

คุณภาพ (Quality) จรรยาบรรณ (Ethics) และความไว้วางใจ (Trust)

สามเสาหลักที่หล่อหลอมให้วิชาชีพนี้ดำรงอยู่ได้อย่างสง่างาม และเป็นปณิธานที่ผมยึดถือเสมอมาตั้งแต่วันแรกของการประกอบวิชาชีพ รวมถึงเป็นรากฐานในการก่อตั้งสำนักงานกฎหมาย MR & Partners ร่วมกับหุ้นส่วนท่านอื่นๆ

1. คุณภาพ (Quality) – รากฐานของงานกฎหมายที่มั่นคง

ทนายความที่ดีต้องมีความรู้ที่ถูกต้อง แม่นยำ และทันสมัยอยู่เสมอ ในโลกกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นบทบัญญัติใหม่ คำพิพากษาที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง หรือความซับซ้อนของสังคมที่เพิ่มขึ้น หน้าที่ของเราจึงไม่ใช่เพียง “รู้กฎหมาย” แต่ต้อง ตีความ วิเคราะห์ และประยุกต์ใช้กฎหมาย ให้เหมาะสมกับแต่ละสถานการณ์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของลูกความอย่างรอบคอบรัดกุมที่สุด

คุณภาพของงานกฎหมายจึงเป็นผลลัพธ์จากองค์ประกอบสำคัญหลายประการ ได้แก่

  • ความละเอียดถี่ถ้วน ในการตรวจสอบเอกสารและข้อเท็จจริง
  • การคิดอย่างเป็นระบบ เพื่อตีกรอบประเด็นและทิศทางคดี
  • การเตรียมคดีอย่างเข้มข้น ทั้งการค้นคว้ากฎหมายและวางเหตุผล
  • การวางกลยุทธ์อย่างมีตรรกะ คำนึงถึงความเป็นไปได้และผลกระทบ
  • การสื่อสารอย่างมืออาชีพ ทั้งการเขียน การพูด และการนำเสนอ

ตลอดประสบการณ์การทำงานของผม ไม่ว่าจะเป็นคดีเล็กหรือใหญ่ ผมยึดถือเสมอว่า การเตรียมการและการวางแผนคือหัวใจของคุณภาพ เพราะการตัดสินใจทุกอย่างย่อมมีผลต่อชีวิตหรือธุรกิจของลูกความ

ในฐานะหัวหน้างาน หน้าที่ของผมไม่เพียงแต่จัดการคดี แต่ยังรวมถึงการจัดทีมทนายความให้เหมาะสมกับความถนัดและศักยภาพของแต่ละคน พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ลูกทีมได้พัฒนาและเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว เพราะการสร้างคุณภาพที่ยั่งยืน ไม่ได้เกิดจากผลงานเพียงหนึ่งคดี แต่เกิดจากการพัฒนาคนในองค์กรให้แข็งแกร่งไปพร้อมกัน

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าการบริหารทีมจะเป็นเช่นไร หลักสำคัญสูงสุดที่ผมยึดถือไม่เคยเปลี่ยน คือ ผลประโยชน์สูงสุดของลูกความ ซึ่งเป็นผู้มอบความไว้วางใจให้เราเป็นผู้แทนในกระบวนการยุติธรรม และเป็นเหตุผลที่เราต้องทำงานด้วยคุณภาพสูงสุดในทุกขั้นตอน

2. จรรยาบรรณ (Ethics) – เสาหลักที่ไม่อาจประนีประนอม

ในวิชาชีพทนายความ “ชนะคดี” ไม่ใช่สิ่งสูงสุด แต่ “ชนะอย่างถูกต้อง” ต่างหากคือสิ่งที่สะท้อนตัวตนของทนายความอย่างแท้จริง จรรยาบรรณคือแนวทางที่ผมยึดถือมั่นตลอดอาชีพ เพราะความยุติธรรมจะเกิดขึ้นได้ก็ด้วยความสุจริตใจ ความโปร่งใส และการยืนหยัดในสิ่งที่ถูกต้อง

พื้นฐานของจรรยาบรรณที่ทนายความต้องรักษา ได้แก่

  • ไม่บิดเบือนข้อเท็จจริง
  • ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
  • ไม่ทำให้ลูกความเข้าใจผิด
  • ไม่เลือกทางลัดที่ขัดต่อกฎหมาย
  • เคารพศาล เคารพคู่ความ และเคารพเกียรติของวิชาชีพ

จรรยาบรรณคือสิ่งที่ติดตัวเราไปตลอดเส้นทางอาชีพ เป็นหลักที่กำกับทั้งความคิดและการกระทำในทุกสถานการณ์ และเป็นรากฐานที่สร้างความเคารพจากสังคม รวมถึงความน่าเชื่อถือที่สะสมขึ้นอย่างยั่งยืน

ท้ายที่สุด ลูกความไว้วางใจเรา ไม่ใช่เพียงเพราะความสามารถในการว่าความหรือความรู้ที่เรามี  แต่เพราะ เขาเชื่อมั่นว่าเราจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง ซื่อสัตย์ และยืนหยัดเพื่อความยุติธรรม นี่คือเหตุผลที่จรรยาบรรณจึงไม่ใช่แค่กฎของวิชาชีพ แต่เป็นหัวใจของการเป็น “ทนายความที่ดี” อย่างแท้จริง

3. ความไว้วางใจ (Trust) – เป้าหมายสูงสุดของวิชาชีพทนายความ

การให้บริการทางกฎหมายที่แท้จริงไม่ได้จำกัดอยู่เพียงการตีความกฎหมายหรือการต่อสู้ในชั้นศาล หากแต่คือการเป็น “ที่พึ่ง” ที่ลูกความสามารถไว้วางใจได้ทั้งในยามปกติและในวันที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญที่สุดของชีวิตหรือธุรกิจ ความไว้วางใจจึงไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลลัพธ์ของการทำงานอย่างมืออาชีพที่สั่งสมและพิสูจน์ได้จริง

ผมเชื่อเสมอว่า ไม่ว่าจะเป็นการให้คำปรึกษาเบื้องต้นหรือคดีที่ซับซ้อนที่สุด เป้าหมายของเราคือ ทำให้ลูกความมั่นใจว่าเขาอยู่ในมือที่ดีที่สุด

ทนายความไม่เพียงเป็นผู้แทนในศาล แต่เป็นผู้ที่เดินเคียงข้างลูกความในทุกย่างก้าว พร้อมให้คำแนะนำที่สะท้อนความจริง ความเสี่ยง และผลกระทบอย่างรอบด้าน

ความไว้วางใจของลูกความเกิดขึ้นได้จากหลายองค์ประกอบ เช่น 

  • ความรับผิดชอบที่เห็นได้จริง จากวิธีทำงานและการติดตามเรื่องอย่างต่อเนื่อง
  • ความตรงไปตรงมาในการให้ข้อมูล โดยไม่ให้ความหวังเกินจริง
  • การนำเสนอข้อเท็จจริงและความเสี่ยงอย่างโปร่งใส ไม่ปกปิดสิ่งสำคัญ
  • การสื่อสารที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย ช่วยให้ลูกความตัดสินใจได้ถูกต้อง
  • ผลงานที่สะท้อนความตั้งใจและความชำนาญ ซึ่งยืนยันความมืออาชีพอย่างแท้จริง

ด้วยเหตุนี้ ทนายความจึงควรตั้งหลักคิดว่า ……

“ทุกคดีคือความสำคัญในชีวิตของลูกความ”

“ทุกคำปรึกษาคือจุดเปลี่ยนของอนาคต”

“ทุกความไว้วางใจคือสิ่งที่ต้องตอบแทนด้วยคุณภาพและความซื่อสัตย์สูงสุด”

ท้ายที่สุด ความไว้วางใจคือรางวัลอันทรงคุณค่า และคือเครื่องพิสูจน์ถึงคุณค่าที่แท้จริงของวิชาชีพทนายความ

____________________________________________

Share this :
Facebook
Twitter
LinkedIn
Email