Our Team

Partners

มนต์อนันต์ เรืองจรัส

Mon-anun Ruengcharus

Managing Partner
ธงฉัตร จันทร์ปรุง

Thongchut Chanprung

Partner
ธีรพล ปะพะลา

Theerapol Papalar

Partner
อัครวรรณ เจริญผล

Akarawan Charoenphol

Partner
ประณต ขอพูนเฉลา

Pranot Kopunchalao

Partner
ธนพัฒก์ จันทร์เจริญสิน

Thanapat Chancharoensin

Partner & General Manager

Senior Of Counsel

พิเชฐ กิตตินิเวศน์กุล

Pichet Kittiniweskul

Senior of Counsel

Legal Support Team

สมัชญา ไชยพิพัฒน์

Samatchaya Chaiphiphat

Associate & Assistant General Manager
ณัฐธิดา ศรีประสมสอง

Natthida Sriprasomsong

Associate
ณัฐพล เรืองศรี

Nuttapon Ruengsri

Associate
ปิยวัลย์ ศิริบุญหลง

Piyawan Siriboonlong

Associate
พชรธมนต์ ขวดพุทรา

Pacharathamon Khuadputsa

Associate
จิตติชัย กูลจีรัง

Chittichai Kunchirang

Associate
จตุพร พื้นชมภู

Jatuporn Phuenchomphu

Associate
สุนิพา โกศัยดิลก

Sunipa Kosaidilok

Office Manager

อีกหนึ่งความแข็งแกร่งของ MR & Partners (MRP) คือทีมทนายความรุ่นใหม่และฝ่ายสนับสนุนงานกฎหมาย ที่เปี่ยมด้วยพลัง ความกระตือรือร้น และแนวคิดทันสมัย ทีมงานกลุ่มนี้พร้อมขับเคลื่อนการทำงานด้วยเทคโนโลยีและกระบวนการที่มีประสิทธิภาพสูง เพื่อสนับสนุนการให้บริการของ MRP ให้ครอบคลุมทุกมิติ ตั้งแต่การวางแผนเชิงกลยุทธ์ การวิเคราะห์ข้อกฎหมาย ไปจนถึงการจัดทำเอกสารและดำเนินกระบวนการยุติธรรมในทุกระดับอย่างครบวงจร

สมัชญา ไชยพิพัฒน์ 
Associate & Assistant General Manager  
ณัฐธิดา ศรีประสมสอง
Associate

สมัชญาและณัฐธิดาถือเป็นกำลังสำคัญของทีมทนายความของ MRP ทั้งคู่ได้ร่วมงานกับ มนต์อนันต์ เรืองจรัส ผู้ก่อตั้งสำนักงาน มาตั้งแต่สมัยทำงานที่ บริษัท เอ็มอาร์ ลีเกิล คอนซัลแตนซี จำกัด (MR Legal Consultancy: MRLC) ต่อเนื่องยาวนานกว่า 4 ปี ก่อนจะมาร่วมสานต่อภารกิจทางกฎหมายที่ MRP ในปัจจุบัน

ตลอดระยะเวลาการทำงาน ทั้งสองได้มีส่วนร่วมในคดีสำคัญ ทั้งคดีทางการเมืองและการบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งมีการดำเนินกระบวนพิจารณาในศาลรัฐธรรมนูญ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลอดจนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงคดีปกครองทั้งในศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุด และคดีแพ่ง–คดีอาญาในศาลยุติธรรมทุกระดับชั้น

นอกจากนี้ สมัชญาและณัฐธิดายังมีบทบาทสำคัญในคดีตรวจสอบการทุจริตภายในองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายสูงและมีความซับซ้อนเชิงโครงสร้าง โดยอาศัยการวิเคราะห์ข้อเท็จจริงอย่างเป็นระบบและการประสานงานกับหน่วยงานภายนอกอย่างมืออาชีพ

สำหรับสมัชญานอกจากการทำหน้าที่ทนายความแล้ว ยังได้รับความไว้วางใจจากสำนักงานให้รับผิดชอบด้านการบริหารในตำแหน่งผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปอีกด้วย

ณัฐพล เรืองศรี
Associate
ปิยวัลย์ ศิริบุญหลง 
Associate
พชรธมนต์ ขวดพุทรา
Associate

ณัฐพล ปิยวัลย์ และ พชรธมนต์ เป็นทนายความที่ร่วมงานกับ ประณต ขอพูนเฉลา หุ้นส่วนของ MRP ที่ บริษัท สำนักงานกฎหมาย เดอะ เกรท จำกัด โดยได้สั่งสมประสบการณ์ในงานด้านอรรถคดีและการให้คำปรึกษากฎหมายเชิงธุรกิจ

ด้วยความละเอียดรอบคอบ ความรับผิดชอบ และความสามารถในการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง ทำให้เป็นกำลังสำคัญของทีมทนายความรุ่นใหม่ที่มีบทบาทสนับสนุนในทุกมิติของงานกฎหมายของ MRP ทั้งด้านการเตรียมสำนวน การจัดทำเอกสาร การให้คำปรึกษา และการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ทนายความทั้งสามยังมีส่วนร่วมในโครงการตรวจสอบการทุจริตภายในองค์กรเอกชนขนาดใหญ่ โดยทำหน้าที่วิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรม เพื่อแสดงให้เห็นถึงการกระทำที่เข้าข่ายทุจริต ซึ่งกลายเป็นพยานหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การดำเนินคดีได้สำเร็จ

จิตติชัย กูลจีรัง 
Associate
จตุพร พื้นชมภู
Associate

จิตติชัย และ จตุพร เป็นทนายความรุ่นใหม่ที่เข้ามาเสริมพลังให้กับทีมของ MRP ด้วยความมุ่งมั่น ขยันขันแข็ง และทัศนคติที่เปิดรับการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง สามารถปรับตัวเข้ากับมาตรฐานการทำงานของสำนักงานได้อย่างรวดเร็ว และปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบสูงสุด

แม้จะเป็นทนายความรุ่นใหม่ แต่ทั้งสองได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความตั้งใจจริงในการพัฒนาทักษะ ทั้งในด้านการวิเคราะห์ข้อเท็จจริง การเขียนเอกสารทางคดี และการบริหารเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ จึงถือเป็นฟันเฟืองสำคัญที่ช่วยเสริมความครบถ้วนของทีม MRP ทั้งในด้านประสบการณ์และพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่

สุนิพา โกศัยดิลก
Office Manager

ในฐานะผู้จัดการสำนักงาน และหัวหน้าทีม Paralegal  สุนิพา มีบทบาทสำคัญในการบริหารและประสานงานฝ่ายสนับสนุนงานกฎหมายของ MRP รับผิดชอบทั้งการค้นคว้ากฎหมาย การจัดทำและตรวจสอบเอกสารทางกฎหมาย การเตรียมข้อมูลและเอกสารประกอบคดี ตลอดจนการติดต่อประสานงานกับลูกความ หน่วยงานราชการ และองค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง

ด้วยประสบการณ์ยาวนานจากการทำงานร่วมกับหุ้นส่วนของ MRP ที่ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด สุนิพามีความเข้าใจในระบบการทำงานของทีมทนายความ และสามารถบริหารงานฝ่ายสนับสนุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยให้การดำเนินงานของสำนักงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ราบรื่น และมีมาตรฐาน

วิสัยทัศน์ของทีมสนับสนุนงานกฎหมาย

ทีมทนายความรุ่นใหม่และฝ่ายสนับสนุนของ MRP ไม่เพียงทำหน้าที่สนับสนุนงานกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ต่อยอดแนวคิดขององค์กรให้ก้าวทันโลกยุคใหม่ ทุกคนมุ่งมั่นพัฒนาองค์ความรู้ทางกฎหมาย ควบคู่กับการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อยกระดับมาตรฐานการให้บริการของสำนักงานให้ถูกต้อง รวดเร็ว และโปร่งใส

ด้วยทีมเวิร์คและความทุ่มเท ทีมสนับสนุนงานกฎหมายของ MRP จึงเป็นสะพานเชื่อมระหว่าง “ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของรุ่นอาวุโส” กับ “นวัตกรรมและพลังสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่” เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตของสำนักงานกฎหมายภายใต้หลักการ “คุณภาพ จรรยาบรรณ และความไว้วางใจ”

Need more help?

Lorem ipsum dolor sit amet, consectetur adipiscing elit. Ut elit tellus, luctus nec ullamcorper mattis, pulvinar dapibus leo.

Free Consultations

Dictum ornare torquent pretium litora risus odio vulputate feugiat amet

Ticket Support

Dictum ornare torquent pretium litora risus odio vulputate feugiat amet

Insight & Article

Dictum ornare torquent pretium litora risus odio vulputate feugiat amet

มนต์อนันต์ เรืองจรัส 

Mon-anun Ruengcharus

Managing Partner

Education
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (BCC 127)
  • นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง 
  • ประกาศนียบัตรหลักสูตรโครงการพัฒนาผู้บริหาร (MINI MBA) คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 
  • ประกาศนียบัตรหลักสูตรการธนาคาร สถาบันการศึกษาการธนาคารและการเงินไทย 
 
Professional Experience

มนต์อนันต์ เรืองจรัส เริ่มต้นเส้นทางวิชาชีพกฎหมายในปี พ.ศ. 2527 ที่ สำนักงานกฎหมายบางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล (Bangkok International Law Office: BILO) ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสำนักงานกฎหมายชั้นนำในขณะนั้น โดยได้สั่งสมประสบการณ์จากการทำอรรถคดีเชิงพาณิชย์โดยเฉพาะคดีเกี่ยวกับธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญที่หล่อหลอมให้มนต์อนันต์มีความเข้าใจในระบบกฎหมาย ประกอบกับการได้ความรู้จากหลักสูตรการธนาคาร สถาบันการศึกษาการธนาคารและการเงินไทยทำให้เข้าใจในกิจการและธุรกรรมของสถาบันการเงินเป็นอย่างดี

ปี พ.ศ. 2542 มนต์อนันต์ได้ร่วมงานกับ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (Kunung & Partners Law Office: KP) ซึ่งก่อตั้งโดยศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย ปูชนียบุคคลแห่งวงการกฎหมายไทย และเป็นสำนักงานที่มีชื่อเสียงด้านคดีความ ต่อมาได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของสำนักงานดังกล่าว รวมถึงเป็นกรรมการบริษัท คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล คอนซัลแตนท์ซี จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือที่มีกิจกรรมหลักในการให้คำปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ

จนกระทั่งปี พ.ศ. 2559 มนต์อนันต์ได้ก่อตั้งสำนักงานของตนเองในชื่อ บริษัท เอ็มอาร์ ลีเกิล คอนซัลแตนซี จำกัด (MR Legal Consultancy: MRLC) เพื่อสานต่อแนวทางการให้บริการทางกฎหมายที่มีมาตรฐาน แต่ด้วยข้อจำกัดในการดำเนินการที่ยังไม่ครอบคลุมรอบด้าน ในปี พ.ศ. 2567 มนต์อนันต์จึงได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายในหลากหลายสาขา ก่อตั้ง บริษัท เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (MR & Partners: MRP) ภายใต้เจตจำนงที่จะสร้าง “สำนักงานกฎหมายที่มีคุณภาพ จรรยาบรรณ และได้รับความไว้วางใจ”

 

Expertise and Key Achievements

ตลอดเส้นทางในวงการกฎหมาย มนต์อนันต์ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้บริหารสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียง และปฏิบัติหน้าที่ทั้งในฐานะทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้มนต์อนันต์มีความเข้าใจทั้งปัญหาทางกฎหมาย รวมทั้งบริบททางเศรษฐกิจ สังคม และเชิงพาณิชย์

 

ผลงานสำคัญในความรับผิดชอบ :
ด้านการเงินและการธนาคาร
  • คดีความที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการเงินและการธนาคาร รวมทั้งคดีการให้สินเชื่อ Call Loan ของผู้บริหารธนาคารพาณิชย์ 
  • แก้ไขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) โดยทำหน้าที่เลขานุการคณะทำงานติดตามหนี้กลุ่มพิเศษ 80,000 ล้านบาทของธนาคารพาณิชย์ที่ถูกควบคุมกิจการโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
  • ตัวแทนสินเชื่อ (Facilities Agent) ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ร่วมปล่อยสินเชื่อแบบ Syndicated Loan 
  • ที่ปรึกษากฎหมายและทนายความให้แก่กองทุนการเงินต่างประเทศที่ประมูลซื้อหนี้จากองค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ซึ่งเป็นผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง
  • แก้ข้อกล่าวหาคดีปกป้องค่าเงินบาทให้แก่อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง รวมทั้งผู้บริหารธนาคารแห่งประเทศไทย
  • ตรวจสอบสถานะทางกฎหมาย (Legal Due Diligence) เพื่อการซื้อขายธนาคารพาณิชย์ โดยดำเนินการให้แก่ผู้ลงทุนที่เป็นสถาบันการเงินต่างประเทศ
  • วิทยากรด้านกฎหมายสถาบันการเงิน หลักสูตรเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์
 
ด้านข้อพิพาทธุรกิจและการลงทุน
  • ข้อพิพาทตามสัญญาโครงการวางท่อก๊าซธรรมชาติของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน 
  • ข้อพิพาทตามสัญญาซื้อขายวัตถุดิบและน้ำมันของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงานทั้งในประเทศและสาขาต่างประเทศ 
  • ข้อพิพาทตามข้อตกลงการร่วมทุนในกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานลม
  • ข้อพิพาทตามข้อตกลงแลกเปลี่ยนที่ดินสนามกอล์ฟ และบริเวณโดยรอบ
  • ข้อพิพาทระหว่างองค์การของรัฐและเอกชนที่เข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการ
 
ด้านคดีการเมืองและการบริหารราชการ
  • คดีศาลรัฐธรรมนูญกรณีการยุบพรรคการเมือง และกรณีการวินิจฉัยสมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และรัฐมนตรี
  • คดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง รวมทั้งคดีที่อยู่ในขั้นตอนการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐบาล (คตส.) เช่น
  • คดีโครงการสลากเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว (คดีหวยบนดิน) เป็นทนายความให้แก่รัฐมนตรี และปลัดกระทรวงการคลัง  
  • คดีโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์สาธารณภัยของ กทม. เป็นทนายความให้แก่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในคดีภาคแรก และคณะกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษในคดีภาคสอง 
  • คดีการลงนามคำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา (Joint Communiqué’) กรณีสนับสนุนกัมพูชาในการขอขึ้นทะเบียนปราสาทพระวิหารเป็นมรดกโลก เป็นที่ปรึกษากฎหมายให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงการต่างประเทศ
  • คดีร่ำรวยผิดปกติตามผลการไต่สวนของ ป.ป.ช. เป็นทนายความให้แก่ผู้บริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิต
  • คดีการให้สินเชื่อ Refinance แก่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เป็นทนายความให้แก่คณะกรรมการสินเชื่อของธนาคาร 
  • คดีโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านของกรมควบคุมมลพิษ เป็นทนายความให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม
  • คดีโครงการก่อสร้างทางด่วนของการทางพิเศษฯ (คดีค่าโง่ทางด่วน) เป็นทนายความให้แก่รองผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย 
  • คดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตร เป็นทนายความให้แก่นายกรัฐมนตรี 
  • คดีการคัดเลือกรองอธิบดีกรมสรรพากรตามหลักเกณฑ์ ว9 เป็นทนายความให้แก่อธิบดีกรมสรรพากร 
  • คดีโครงการว่าจ้างขนและกำจัดมูลฝอย ที่โรงงานกำจัดมูลฝอยอ่อนนุช สถานีขนถ่ายมูลฝอยท่าแร้ง และ โรงงานกำจัดมูลฝอยหนองแขม ของ กทม. เป็นทนายความให้แก่คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา 
  • คดีโครงการจัดซื้อรถตรวจการณ์อัจฉริยะสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นทนายความให้แก่เอกชนผู้เข้าร่วมการประกวดราคา 
 
ด้านคดีปกครอง
  • คดีเพิกถอนคำสั่งลงโทษทางวินัยแก่ปลัดกระทรวงการคลัง กรณีการคัดเลือกรองอธิบดีกรมสรรพากรตามหลักเกณฑ์ ว9 และคดีลงโทษทางวินัยแก่ผู้บริหารของ กทม. กรณีโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์สาธารณภัยของ กทม. 
  • คดีเพิกถอนคำสั่งให้ชดใช้เงินในความรับผิดทางละเมิดของผู้ว่าราชการ กทม. กรณีโครงการจัดซื้อรถดับเพลิง เรือดับเพลิง และอุปกรณ์สาธารณภัยของ กทม.
  • คดีชาวชุมชนย่านสุขุมวิทฟ้อง กทม. และคอนโดมิเนียมเพื่อให้ระงับการใช้อาคาร โดยเป็นผู้รับมอบอำนาจของผู้ประกอบการคอนโดมิเนียม
  • คดีพิพาทตามสัญญาร่วมดำเนินรายการโทรทัศน์แบบ Time Sharing ของบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) โดยเป็นผู้รับมอบอำนาจของผู้ดำเนินรายการ
 
งานสำคัญอื่นๆ
  • คดีอาญาที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ อสมท.และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์เกี่ยวกับเวลาการโฆษณารายการ 
  • คดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. เป็นทนายความให้แก่ผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแกนนำ
  • คดีฟอกเงินจากค่าว่าจ้างตามสัญญาก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ทั้งในคดีที่มีการร้องขอให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดิน และคดีอาญา
  • คดีพิพาทเกี่ยวกับการจัดการทรัพย์มรดกมูลค่าหลายพันล้านบาท
  • ตรวจสอบการทุจริตภายในองค์กรเอกชนขนาดใหญ่มีมูลค่าความเสียหายกว่า 500 ล้านบาท
 
บทบาทในกิจกรรมสาธารณะ
  • อนุญาโตตุลาการ ระงับข้อพิพาทของสถาบันอนุญาโตตุลาการ
  • ผู้ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท สำนักระงับข้อพิพาท สำนักงานศาลยุติธรรม
  • อนุกรรมการตรวจสอบข้อมูลข่าวสารของราชการ 
  • กรรมการสมาคมศิษย์เก่ากรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
  • อนุกรรมการฝ่ายกฎหมายและอรรถคดี และเลขานุการคณะทำงานจัดทำตราสารจัดตั้งและข้อบังคับโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย 
  • ศิษย์เก่าดีเด่นโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (BCC) ประจำปี 2562

ธงฉัตร จันทร์ปรุง

Thongchut Chanprung

Partner

Education & Professional Experience

ธงฉัตร จันทร์ปรุง สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง เริ่มต้นเส้นทางวิชาชีพทนายความตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 กับ บริษัท บางกอกอินเตอร์เนชั่นแนล ลอว์ออฟฟิศ จำกัด (Bangkok International Law Office: BILO) สำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงในขณะนั้น โดยได้สั่งสมประสบการณ์ด้านอรรถคดีและการว่าความในคดีเชิงพาณิชย์และคดีอาญา ในปี พ.ศ. 2552 ธงฉัตรได้เข้าร่วมงานกับ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (Kunung & Partners Law Office) ซึ่งก่อตั้งโดยศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย หนึ่งในบุคคลสำคัญของวงการกฎหมายไทย  โดยธงฉัตรได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีความที่มีความซับซ้อน โดยเฉพาะคดีอาญาที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ นักการเมือง และภาคธุรกิจเอกชน ซึ่งเป็นสาขาที่มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ  ทำให้ธงฉัตรได้รับการยอมรับโดยได้รับการทาบทามจากสำนักงานกฎหมายที่มีชื่อเสียงหลายแห่งให้เข้าร่วมทีมทนายว่าความในคดีความสำคัญ

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2567 ธงฉัตรได้ร่วมกับ นายมนต์อนันต์ เรืองจรัส อดีตกรรมการผู้จัดการสำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส และพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายในหลายสาขา ก่อตั้งบริษัท เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (MR & Partners) โดยมีเจตนารมณ์ร่วมกันที่จะสร้างสำนักงานกฎหมายแห่งความเป็นเลิศทางวิชาชีพ  ควบคู่กับการยึดมั่นในจรรยาบรรณทางวิชาชีพ

 

Expertise and Key Achievements
  • คดีความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
    • คดีที่มีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่อสมท.ว่าดำเนินการให้มีการโฆษณารายการโทรทัศน์เกินเวลา โดยมีผู้ดำเนินรายการเป็นผู้สนับสนุน
  • คดีฟอกเงินตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2545
    • คดีที่เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตถูกฟ้องข้อหาฟอกเงินเป็นคดีอาญา
    • คดีเอกชนผู้รับเหมาก่อสร้างโครงการบ่อบำบัดน้ำเสียจังหวัดสมุทรปราการถูกฟ้องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา
  • คดีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 
    • คดีที่บริษัทผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบถูกฟ้องเป็นคดีอาญา
  • คดีความผิดตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560
    • คดีที่บริษัทผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์ยาสูบถูกฟ้องเป็นคดีอาญา
  • คดีความผิดตามพระราชบัญญัติสถาปนิก พ.ศ. 2543 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
    • คดีที่มีการฟ้องผู้ออกแบบงานสถาปัตยกรรมเป็นคดีแพ่งและคดีอาญา
  • คดีความอื่นๆ
    • คดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ปิดกั้น บมจ.ปตท.
    • คดีนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรฟ้องขอให้รื้อถอนอาคารที่ก่อสร้างในพื้นที่ส่วนกลาง
    • คดีพิพาทของทายาทตระกูลที่มีชื่อเสียงทั้งคดีมรดก คดีปลอมเอกสาร และข้อพิพาทตามสัญญาร่วมลงทุนในธุรกิจพลังงานลม
  •  
  •  

ธีรพล ปะพะลา

Theerapol Papalar

Partner

Education
  • นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง 
  • เนติบัณฑิตไทย
  • บัณฑิตทางกฎหมายปกครอง มูลนิธิวิจัยและพัฒนากระบวนการยุติธรรมทางปกครอง
Professional Experience

ธีรพล ปะพะลา เริ่มต้นเส้นทางในวิชาชีพกฎหมายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2533 ที่ บริษัท ชินวัตรคอมพิวเตอร์ แอนด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (มหาชน) [ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น “บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” และภายหลังเป็น “บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)]” โดยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานด้าน Corporate ซึ่งครอบคลุมการจดทะเบียนนิติบุคคล การจัดการเอกสารทางกฎหมาย การร่าง ตรวจสอบ และวิเคราะห์สัญญาธุรกิจ รวมทั้งการให้คำปรึกษากฎหมาย เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในยุคที่อุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทยกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว ต่อมา ธีรพลได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งใน บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) (AIS) โดยมีหน้าที่ดูแลทั้งงานด้านกฎหมายองค์กร (Corporate) และ งานนิติกรรมสัญญา (Contractual Affairs) ของบริษัทในเครือกว่า 40 บริษัท พร้อมทั้งปฏิบัติหน้าที่เป็น ทนายความประจำบริษัท (In-House Counsel) ดูแลคดีความของบริษัททั้งในระดับชั้นศาลและการเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาททางธุรกิจ

ในปี พ.ศ. 2543 ธีรพลได้เข้าร่วมงานกับ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ซึ่งก่อตั้งโดย ศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย หนึ่งในนักกฎหมายผู้ทรงคุณวุฒิของประเทศ โดยได้สั่งสมประสบการณ์อย่างกว้างขวางทั้งในด้านคดีความ (Litigation) และการให้คำปรึกษากฎหมาย (Legal Advisory) ครอบคลุมทั้งกฎหมายธุรกิจ การลงทุน การบริหารงานภายในองค์กร และข้อพิพาททางการค้า

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2567 ธีรพลได้ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญทางกฎหมายในหลากหลายสาขาก่อตั้ง บริษัท เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (MR & Partners )เพื่อสานต่ออุดมการณ์ในการสร้างสำนักงานกฎหมายที่มีคุณภาพ จรรยาบรรณ และได้รับความไว้วางใจ โดยผสมผสานประสบการณ์เพื่อให้บริการทางกฎหมายที่ครบถ้วน รอบคอบ และทันสมัย

 

Expertise and Key Achievements

ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี ธีรพลมีประสบการณ์ทั้งกฎหมายธุรกิจและการลงทุน กฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา กฎหมายภาษีอากร กฎหมายปกครอง และการดำเนินคดีซับซ้อนระดับประเทศ

  • มีบทบาทสำคัญในช่วงการขยายกิจการของกลุ่มบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น โดยรับผิดชอบการรวมธุรกิจ การจัดตั้งบริษัทในเครือ และการกำกับดูแลโครงสร้างองค์กร
  • เชี่ยวชาญด้านการจัดทำและเจรจานิติกรรมสัญญาหลากหลายรูปแบบ ทั้งสัญญาทางธุรกิจ การปรับโครงสร้างหนี้ตามหลักเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย และการตรวจสอบสถานะทางกฎหมาย (Legal Due Diligence) สำหรับการลงทุน การเข้าซื้อหุ้น และการควบรวมกิจการ
  • ให้คำปรึกษากฎหมายแก่หน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรธุรกิจชั้นนำ เกี่ยวกับกฎหมายสำคัญหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2553 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2554 พระราชบัญญัติองค์การเภสัชกรรม พ.ศ. 2509 พระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 เป็นต้น
  • มีประสบการณ์ดำเนินคดีหลากหลายประเภท ครอบคลุมคดีแพ่ง คดีอาญา คดีล้มละลาย คดีแรงงาน คดีครอบครัว คดีปกครอง คดีภาษีอากร รวมถึงข้อพิพาทอนุญาโตตุลาการ
  • มีบทบาทสำคัญในคดีระดับประเทศ โดยเฉพาะคดีที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ เช่น การแก้ข้อกล่าวหาในคดีที่อยู่ในอำนาจการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ไปจนถึงชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น
    • คดีโครงการหวยบนดิน
    • คดีสินเชื่อธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน)
    • คดีโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายบางนา–บางปะกง
    • คดีร่ำรวยผิดปกติและการร้องขอให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดิน

อัครวรรณ เจริญผล

Akarawan Charoenphol

Partner

Education
  • ปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • ปริญญาโท Master of Laws in Comparative Law จากประเทศสหรัฐอเมริกา
  • ประกาศนียบัตร Graduate Diploma in Management Communication จากประเทศนิวซีแลนด์
Professional Experience

อัครวรรณเริ่มต้นวิชาชีพทนายความในปี พ.ศ. 2544 ที่ สำนักงานกฎหมายคนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส โดยได้นำความรู้ด้านกฎหมาย ประกอบกับทักษะการสื่อสารและการบริหารจัดการที่ได้รับจากรั้วมหาวิทยาลัย มาประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดระยะเวลาในสำนักงานกฎหมายดังกล่าว อัครวรรณได้สั่งสมประสบการณ์หลากหลายสาขา ทั้งในด้านการให้คำปรึกษาทางกฎหมายแก่โครงการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ, คดีอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ, รวมถึงคดีทรัพย์สินทางปัญญาและสัญญาทางธุรกิจ รวมทั้งมีส่วนร่วมในการทำคดีอาญาที่มีการกล่าวหาถึงการทุจริตของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่รัฐอื่น ประสบการณ์เหล่านี้ช่วยเสริมให้มีความเข้าใจทั้งในเชิงเทคนิคทางกฎหมายและการดำเนินธุรกิจเชิงพาณิชย์อย่างลึกซึ้ง

ระหว่างปี พ.ศ. 2552 – 2564 อัครวรรณได้ขยายขอบเขตประสบการณ์เข้าสู่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมีบทบาทสำคัญทั้งในฐานะกรรมการบริษัทและผู้บริหารโครงการขนาดใหญ่ อาทิ โรงแรมระดับห้าดาว สวนน้ำ ห้างสรรพสินค้า และสนามกีฬา ซึ่งต้องอาศัยการบริหารจัดการโครงการในหลายมิติ ทั้งด้านการเงิน การออกแบบ การก่อสร้าง และการเจรจากับภาครัฐและเอกชน ประสบการณ์ในช่วงนี้ได้หล่อหลอมให้เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่าง กฎหมาย พาณิชย์ และการบริหารโครงการ อย่างเป็นองค์รวม

ต่อมาในปี พ.ศ. 2566 อัครวรรณได้ก่อตั้งบริษัท เอ-บิซซิเนส โซลูชั่น ดีไซน์ จำกัด (A-Business Solution Design Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แบบครบวงจร โดยเฉพาะในเรื่อง การได้มาซึ่งที่ดิน การจัดการพื้นที่เช่าค้าปลีก และการวางกลยุทธ์ทางกฎหมายเพื่อการลงทุน เพื่อสนับสนุนนักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการให้สามารถดำเนินงานได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ครอบคลุมทั้งด้านกฎหมาย กลยุทธ์ธุรกิจ และการบริหารจัดการ

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2567 อัครวรรณได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายในหลากหลายแขนง ก่อตั้ง บริษัท เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (MR & Partners) โดยมีเจตจำนงร่วมกันในการยกระดับมาตรฐานการให้บริการทางกฎหมายให้มีความเป็นเลิศทั้งในด้าน ความรู้ ความรอบคอบ ความซื่อสัตย์สุจริต และความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อสร้างสำนักงานกฎหมายที่เป็นแบบอย่างของความเชี่ยวชาญและคุณธรรมในวิชาชีพ

 

Expertise and Key Achievements

ด้วยประสบการณ์ที่ผสมผสานทั้งบทบาทนักกฎหมายและผู้บริหารโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ อัครวรรณจึงมีความเชี่ยวชาญครอบคลุมทุกขั้นตอนของการพัฒนาโครงการ ตั้งแต่การจัดหาที่ดิน ประสานงานออกแบบ และการควบคุมงานก่อสร้าง การขออนุญาตและการจดทะเบียนกับหน่วยงานภาครัฐ ไปจนถึงการสร้างความร่วมมือกับชุมชนในพื้นที่ โดยใช้องค์ความรู้ด้านกฎหมายธุรกิจ (Business Law) และกฎหมายองค์กร (Corporate Law)  ประกอบการปฏิบัติงานควบคู่ไปโดยตลอด  ทำให้อัครวรรณสามารถให้คำปรึกษาเชิงกลยุทธ์และแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนอย่างรอบด้าน ตอบโจทย์ทั้งในมิติทางกฎหมาย การบริหารจัดการ และการพัฒนาโครงการได้อย่างครบถ้วน ส่งผลให้นักลงทุนและผู้พัฒนาโครงการสามารถตัดสินใจอย่างมีข้อมูล มีโครงสร้างที่ชัดเจน และดำเนินการได้อย่างมั่นใจในทุกขั้นตอน

ด้วยคุณสมบัติและประสบการณ์ที่กว้างขวางทำให้อัครวรรณได้รับการยอมรับในฐานะนักกฎหมายที่เข้าใจธุรกิจ และเป็นนักบริหารที่เข้าใจกฎหมายอย่างแท้จริง

ประณต ขอพูนเฉลา

Pranot Kopunchalao

Partner

Education
  • เนติบัณฑิตไทย
  • นิติศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • ประกาศนียบัตร หลักสูตรวิชาว่าความของสำนักฝึกอบรมวิชาว่าความแห่งสภาทนายความ
  • ประกาศนียบัตร หลักสูตรทนายความผู้ทำคำรับรองรายมือชื่อและเอกสารแห่งสภาทนายความ
Professional Experience

ประณต ขอพูนเฉลา เริ่มต้นเส้นทางในสายวิชาชีพกฎหมายเมื่อปี พ.ศ. 2549 ในตำแหน่งทนายความประจำ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของการเรียนรู้และพัฒนาทักษะในงานอรรถคดีและการว่าความ เนื่องจากสำนักงานแห่งนี้ก่อตั้งโดย ศาสตราจารย์คนึง ฦๅไชย ปรมาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิในวงการกฎหมายไทย โดยมีหุ้นส่วนและที่ปรึกษาหลายท่านเป็นอดีตผู้พิพากษาและอดีตพนักงานอัยการระดับสูง ทำให้ประณตได้มีโอกาสศึกษาวิธีคิดและแนวทางการทำงานอย่างลึกซึ้ง ได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้ทางวิชาชีพอย่างเข้มข้น และฝึกฝนในสภาพแวดล้อมที่เน้นความละเอียด รอบคอบ และยึดมั่นในจรรยาบรรณของทนายความ

ตลอดช่วงเวลากว่าทศวรรษในสำนักงานกฎหมายคนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ประณตได้สั่งสมประสบการณ์ในคดีสำคัญหลากหลายประเภท ทั้งคดีแพ่ง คดีอาญา และคดีทางธุรกิจ ซึ่งหลายคดีมีลักษณะซับซ้อนและมีผลกระทบในวงกว้างทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม ความมุ่งมั่นและความรับผิดชอบในการทำงาน ทำให้ได้รับความไว้วางใจให้มีส่วนร่วมในคดีสำคัญอย่างต่อเนื่อง

เมื่อถึงจุดที่มีความพร้อมและต้องการต่อยอดประสบการณ์ให้เติบโตยิ่งขึ้น ประณตจึงได้ก่อตั้ง “สำนักงานกฎหมาย เดอะ เกรท จำกัด” ในปี พ.ศ. 2558 โดยดำรงตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ เพื่อให้บริการทางกฎหมายอย่างครอบคลุมและเป็นอิสระตามแนวทางที่ตนเชื่อมั่น คือ การให้คำปรึกษาและการดำเนินคดีอย่างมืออาชีพ ภายใต้หลักความซื่อสัตย์ สุจริต และยึดมั่นในความยุติธรรม

ต่อมาในปี พ.ศ. 2567 ด้วยความเชื่อมั่นในแนวคิดและอุดมการณ์เดียวกันในการสร้างสำนักงานกฎหมายที่มีความครบวงจรและยกระดับมาตรฐานวิชาชีพ มนต์อนันต์ เรืองจรัส อดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด จึงได้ชักชวนประณตให้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งสำนักงานกฎหมาย เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (MRP) ร่วมกับหุ้นส่วนอีก 4 คน เพื่อรวมพลังแห่งประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญ และความหลากหลายทางกฎหมาย สร้างสรรค์สำนักงานที่ให้บริการทางกฎหมายได้อย่างครบเครื่อง ครอบคลุมทุกมิติ และตอบสนองความต้องการของลูกความทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างแท้จริง ประณตถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของ MRP ที่ร่วมผลักดันให้สำนักงานกฎหมายแห่งนี้เติบโตอย่างมั่นคงภายใต้ปณิธานที่ตั้งไว้

 

Expertise and Key Achievements

ประณตเป็นทนายความที่มีความเชี่ยวชาญด้าน อรรถคดี (Litigation) โดยเฉพาะคดีที่มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับกฎหมายอาญา การทุจริต และข้อพิพาททางธุรกิจที่มีมูลค่าสูง

ผลงานคดีสำคัญที่ประณตมีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่

  • คดีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อันเกิดจากการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐบาล (คตส.) เช่น คดีกล้ายาง
  • คดีร่ำรวยผิดปกติ ตามผลการไต่สวนของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)
  • คดีอาญาความผิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561
  • คดีฟอกเงิน ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542
  • คดีอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และคดีทุจริตประพฤติมิชอบ ที่มีผลกระทบต่อองค์กรขนาดใหญ่ทั้งภาครัฐและเอกชน
  • คดีปกครอง ซึ่งเป็นข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐกับเอกชน
  • ที่ปรึกษาด้านกฎหมายธุรกิจ ให้คำปรึกษาแก่บริษัทเอกชนและนักลงทุนในด้านการดำเนินธุรกิจ การร่างสัญญา การบริหารความเสี่ยง และการปฏิบัติตามกฎหมาย 
  • ที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ ครอบคลุมการวางแผนโครงสร้างการลงทุน  และการจัดการทรัพย์สิน 
  • การตรวจสอบการทุจริตภายในองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความซับซ้อนสูง ทั้งในเชิงโครงสร้างและกระบวนการทางการเงิน โดยมีมูลค่าความเสียหายเป็นจำนวนมาก

ธนพัฒก์ จันทร์เจริญสิน

Thanapat Chancharoensin

Partner

Education
  • โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย (BCC 148)
  • นิติศาสตร์บัณฑิต  มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ
  • เนติบัณฑิตไทย สำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา
  • LL.M, Master of Commercial Law, Monash University, State of Victoria, Melbourne, Australia, (2010)
  • ทนายความผู้ทำคำรับรองลายมือชื่อและเอกสาร, สภาทนายความ
Professional Experience

ธนพัฒก์ จันทร์เจริญสิน เริ่มต้นเส้นทางวิชาชีพกฎหมายในปี พ.ศ. 2548 กับ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (Kunung & Partners Law Offices Co., Ltd.) ในตำแหน่งทนายความและที่ปรึกษากฎหมาย โดยรับผิดชอบงานด้านอรรถคดีและการให้คำปรึกษากฎหมายเชิงธุรกิจแก่ลูกความในหลากหลายสาขาทั้งภาครัฐและเอกชน ในช่วงเวลาดังกล่าวธนพัฒก์ยังได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษากฎหมายของบริษัท คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล คอนซัลแตนท์ซี จำกัด (Kunung & Partners International Consultancy Co., Ltd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ให้บริการด้านที่ปรึกษากฎหมายในระดับนานาชาติ โดยให้คำปรึกษาแก่ลูกความในด้านการลงทุน การทำสัญญาระหว่างประเทศ และข้อพิพาททางการค้า

ด้วยความทุ่มเท ความละเอียดรอบคอบ และความสามารถในการบริหารงาน ธนพัฒก์ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารของทั้งสองบริษัท มีบทบาทสำคัญในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ การกำกับคุณภาพงานกฎหมาย และการพัฒนาโครงสร้างการบริหารสำนักงานให้มีความเป็นระบบและทันสมัย

จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2567 ธนพัฒก์ได้ร่วมกับพันธมิตรผู้ทรงคุณวุฒิทางกฎหมายในหลากหลายสาขา ก่อตั้งบริษัท เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด (MR & Partners) โดยมุ่งหมายที่จะสร้างสำนักงานกฎหมายที่มีคุณภาพ จรรยาบรรณ และได้รับความไว้วางใจ ปัจจุบันธนพัฒก์ดำรงตำแหน่ง หุ้นส่วน (Partner) และผู้จัดการทั่วไป (General Manager) รับผิดชอบการบริหารงานโดยรวมของบริษัท ทั้งในด้านกลยุทธ์ การบริหารทีมงาน และการควบคุมคุณภาพการให้บริการทางกฎหมาย เพื่อให้สอดคล้องกับปณิธานขององค์กร

 

Expertise and Key Achievements

นายธนพัฒก์ มีความเชี่ยวชาญทั้งในด้านอรรถคดี และการให้คำปรึกษาทางกฎหมาย 

  • งานด้านอรรถคดี 

มีประสบการณ์ว่าความคดีแพ่งและอาญาในศาลยุติธรรมและศาลชำนัญพิเศษ อาทิ ศาลแรงงาน ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เป็นต้น นายธนพัฒก์ มีความชำนาญพิเศษในด้านการระงับข้อพิพาททางการค้า ธุรกิจพลังงาน และการก่อสร้าง  การระงับข้อพิพาททางการค้าด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการในสัญญาซื้อขาย สัญญาก่อสร้างที่มีทุนทรัพย์สูง นอกจากนี้ธนพัฒก์ยังมีประสบการณ์ในการดำเนินคดีปกครองที่พิพาทกันในลักษณะต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคดีพิพาทอันเกี่ยวด้วยสัญญาทางปกครอง

  • งานให้คำปรึกษากฎหมาย

ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายธุรกิจ ตรวจสอบนิติกรรมสัญญา รวมทั้งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับกฎหมายคุ้มครองแรงงานให้กับเอกชนหลายแห่ง นอกจากนี้ ยังรับเป็นที่ปรึกษาด้านนิติการและการตรวจสอบสัญญาให้แก่ภาครัฐ และรวมถึงการตอบข้อหารือในปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลให้แก่หน่วยงานราชการ มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐหลายแห่ง

สำหรับตัวอย่างผลงานสำคัญ ได้แก่:

  • ที่ปรึกษากฎหมายประจำ (Retainer) ให้แก่ องค์การส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และกลุ่มสหยูเนี่ยน
  • ที่ปรึกษาด้านนิติการ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัยประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จนถึงปัจจุบันอีกด้วย
  • การระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ เกี่ยวกับโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ 
  • การระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ เกี่ยวกับโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลซึ่งร่วมทุนกันระหว่างบริษัทไทยกับบริษัทสัญชาติสิงคโปร์ ที่อำเภอพนัสนิคม จังหวัดชลบุรี ภายใต้ข้อบังคับสำนักอนุญาโตตุลาการ THAC
  • คดีพิพาทในศาลยุติธรรมเกี่ยวกับการบังคับตามคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการในต่างประเทศภายใต้อนุสัญญานิวยอร์ก (New York Convention)
  • คดีพิพาททางแพ่งในศาลยุติธรรมเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์หุ้นบริษัทพลังงานลม 
  • คดีพิพาทในศาลชำนัญพิเศษด้านแรงงานเกี่ยวกับข้อพิพาทแรงงานระหว่างบริษัทสายการบินแห่งชาติ กับพนักงานระดับผู้บริหาร กรณีละเมิดอันเนื่องมาจากผิดสัญญาจ้างแรงงานกรณีผลต่างของราคาค่าโดยสารที่เรียกเก็บไม่ได้ (Fare Discrepancies)
  • คดีพิพาทในศาลชำนัญพิเศษด้านล้มละลายระหว่างเจ้าหนี้การค้าต่างประเทศกับบริษัทลูกหนี้ผู้ประกอบการค้าข้าวไทย กรณีบริษัทลูกหนี้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการเพื่อให้ได้รับสิทธิในการพักชำระหนี้โดยอัตโนมัติระหว่างฟื้นฟูกิจการ (Automatic Stay)
  • ดำเนินคดีให้แก่บริษัทมหาชนด้านการวางระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีข้อพิพาทกับหน่วยงานของรัฐกรณีผิดนัดชำระค่าว่าจ้างตามสัญญาในโครงการศูนย์ข้อมูลที่ดินและแผนที่แห่งชาติโดยสามารถฟ้องร้องบังคับให้หน่วยงานของรัฐชำระหนี้ค่าว่าจ้างตามสัญญาพิพาทจำนวนกว่า 500 ล้านบาท 
  • คดีพิพาทในศาลยุติธรรมด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตเกลือสินเธาว์ที่จังหวัดนครราชสีมา
  • คดีพิพาทในศาลปกครองเกี่ยวด้วยสัญญาทางปกครอง ระหว่างบริษัทมหาชนด้านการวางระบบคอมพิวเตอร์กับกรมที่ดิน โครงการศูนย์ข้อมูลที่ดินและแผนที่แห่งชาติ
  • คดีของศาลยุติธรรมที่พิพาทกันในเรื่องของธุรกิจการลงทุน ตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ การเงินการธนาคารหลายคดี
  • เป็นคณะกรรมการสอบความรับผิดทางละเมิดเจ้าหน้าที่ในมหาวิทยาลัยของรัฐ 
  • เป็นเลขานุการและคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมายและอรรถคดีของโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย
  •  

พิเชฐ กิตตินิเวศน์กุล

Pichet Kittiniweskul

Senior Of Counsel

Education
  • นิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 2) มหาวิทยาลัยรามคำแหง
  • เนติบัณฑิตไทย
Professional Experience

พิเชฐ กิตตินิเวศน์กุลเป็นทนายความผู้มากด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในสายงานกฎหมายภาคเอกชน โดยเฉพาะด้าน กฎหมายการเงิน การธนาคาร และตลาดทุน เส้นทางอาชีพของพิเชฐเริ่มต้นในปี 2527 ที่ สำนักงานชัชวาล สิงหลกะ ก่อนจะเข้าร่วมงานกับ สำนักงานศักดิ์ เวชประสิทธิ์ ปี 2531 และต่อมาปี 2533 ได้เข้าดำรงตำแหน่ง นิติกรที่ปรึกษาและทนายความของธนาคารกรุงเทพฯ พาณิชย์การ จำกัด (มหาชน) ปี 2542 พิเชฐได้ร่วมงานกับ บริษัท สำนักงานกฎหมาย คนึง แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ได้รับโอกาสในการว่าความและดูแลคดีสำคัญที่มีความซับซ้อนหลากหลาย ด้วยความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในกฎหมายตลาดทุนและกิจการธนาคารพาณิชย์อย่างลึกซึ้ง อีกทั้งยังมีความรู้รอบด้านในกฎหมายแขนงอื่นๆ อย่างกว้างขวาง จึงได้รับเชิญให้ดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษากฎหมายอาวุโส (Senior Of Counsel) ของ บริษัท เอ็มอาร์ ลีเกิล คอนซัลแตนซี จำกัด ตั้งแต่ปี 2559 และต่อเนื่องถึงปัจจุบันในฐานะ Senior Of Counsel ของ บริษัท เอ็มอาร์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส จำกัด โดยทำหน้าที่ให้คำปรึกษาเชิงลึกและกลั่นกรองคดีสำคัญอย่างรอบด้าน

 

Expertise and Key Achievements
  • คดีเกี่ยวกับกิจการธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงิน เช่น สัญญาเงินกู้ เบิกเงินเกินบัญชี ตั๋วเงิน เลตเตอร์ออฟเครดิต/ทรัสต์รีซีท การสวอปเงินตราต่างประเทศ และการปรับโครงสร้างหนี้
  • คดีเกี่ยวกับพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เช่น การซื้อขายหุ้นด้วยเงินให้กู้ยืม การปั่นหุ้น การใช้ข้อมูลภายใน
  • ข้อพิพาทตามสัญญาโครงการวางท่อก๊าซธรรมชาติของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน
  • ข้อพิพาทตามสัญญาซื้อขายวัตถุดิบและน้ำมันของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (เช่น สาขากัมพูชา)
  • คดีการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่เกี่ยวข้องกับการบุกรุกสถานที่ของรัฐวิสาหกิจด้านพลังงาน
  • คดีอาญาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง กรณีสลากเลขท้าย 3 ตัว 2 ตัว (คดีหวยบนดิน)
  • คดีอาญาเกี่ยวกับการอนุมัติสินเชื่อของผู้บริหารธนาคารพาณิชย์
  • คดีร่ำรวยผิดปกติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
  • คดีเกี่ยวกับการสรรหาและแต่งตั้งรองอธิบดีกรมสรรพากรตามหลักเกณฑ์ ว.9
  • ข้อพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐและเอกชนในกระบวนการอนุญาโตตุลาการ
  • คดีฟอกเงินจากค่าว่าจ้างตามสัญญาก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน ทั้งคดีขอให้ทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินในความแพ่ง และฟอกเงินความอาญา
  • คดีปกครองกรณีเพิกถอนคำสั่งลงโทษทางวินัยแก่ปลัดกระทรวงการคลัง กรณีการคัดเลือกรองอธิบดีกรมสรรพากร
  • การตรวจสอบสถานะกิจการ (Due Diligence) ของ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารศรีนคร จำกัด (มหาชน)
  •